เปลี่ยนฤดูทีไร น้ำไม่ไหลอีกแล้ว! รวม 3 จุดต้นเหตุที่เจอบ่อยสุด
หมวดหมู่: บทความ
ปัญหาที่ 1: ลูกลอยไม่ทำงานและปัญหาระบบเติมน้ำอัตโนมัติ
ลูกลอยถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ควบคุมระดับน้ำในถังเก็บน้ำ หากมีปัญหาจะส่งผลให้น้ำล้นหรือไม่มีน้ำเข้าถังเลย ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาน้ำไม่ไหลตามมา
นี่คือปัญหาแรกที่พบบ่อยที่สุดในถังเก็บน้ำ เมื่อลูกลอยไม่ได้ตั้งฉากกับตัวถัง มันจะไม่สามารถปิด-เปิดวาล์วได้อย่างถูกต้องตามกลไก ส่งผลให้น้ำล้นออกมาเรื่อย ๆ โดยที่ปั๊มไม่หยุดทำงาน หรือในกรณีตรงกันข้าม ลูกลอยอาจปิดวาล์วตลอดเวลาจนไม่มีน้ำเข้าถังเลย
ปัญหานี้มักเกิดจากการไม่ได้ฝลัดน้ำทิ้งในระบบประปาก่อนติดตั้งถังเก็บน้ำใหม่ เพราะภายในท่อประปามักมีเศษกรวดหิน ทราย และตะกอนต่างๆ ติดค้างอยู่ เมื่อน้ำไหลผ่านมา เศษเหล่านี้จะไปอุดซีลยางหรือตัววาล์วที่ลูกลอย ทำให้การเปิด-ปิดไม่สมบูรณ์
เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยมากโดยเฉพาะกับการติดตั้งเอง เพียงแค่ลืมใส่อุปกรณ์เล็กๆ บางตัว หรือต่อท่อผิดรู ก็สามารถทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงได้ กรณีที่พบบ่อยที่สุดคือการต่อท่อนำเข้าและน้ำออกผิดรู จนทำให้ระบบทำงานผิดปกติโดยสิ้นเชิง
ขั้นตอนแรก ให้ปิดบอลวาล์วเพื่อควบคุมน้ำเข้าถังก่อน จากนั้นให้สังเกตตำแหน่งของเรือนวาล์ว แล้วค่อยๆ หมุนเรือนวาล์วให้ตั้งฉากกับตัวถังประมาณ 90 องศาพอดี หลังจากนั้นนำก้านลูกลอยหมุนเข้ากับตัวเรือนวาล์วให้แน่น ทดสอบโดยการเปิดน้ำดูว่าลูกลอยลอยขึ้นลงและปิด-เปิดวาล์วได้ตามปกติหรือไม่
เริ่มจากปิดบอลวาล์วก่อนทุกครั้ง จากนั้นถอดก้านและเรือนวาล์วออกจากถัง ทำความสะอาดซีลยางและเรือนวาล์วด้วยน้ำสะอาด ขัดเบาๆ เพื่อเอาคราบหินปูนหรือตะกอนออก ตรวจสอบว่าซีลยางยังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ ถ้าชำรุดควรเปลี่ยนใหม่ แล้วจึงประกอบกลับเข้าที่เดิม อย่าลืมขันให้แน่นเพื่อป้องกันการรั่วซึม
ให้ตรวจสอบว่าท่อน้ำเข้าผ่านการควบคุมจากลูกลอยหรือไม่ โดยดูจากตำแหน่งท่อที่เชื่อมกับถัง เคสที่พบบ่อยคือช่างติดตั้งรูน้ำออกเป็นรูน้ำเข้า และใช้รูน้ำทิ้งเป็นรูน้ำออกแทน วิธีแก้คือต้องถอดท่อออกมาต่อใหม่ตามตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยดูจากคู่มือการติดตั้งของผู้ผลิตถังเก็บน้ำ
นี่คือปัญหาที่น่าหงุดหงิดมากที่สุด เพราะได้ยินเสียงปั๊มดังทำงาน แต่น้ำไม่ขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย ปัญหานี้มักเกิดกับปั๊มหอยโข่งเป็นหลัก และมีสาเหตุที่ชัดเจนหลายประการ
นี่คือสาเหตุอันดับหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดของปัญหานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปั๊มหอยโข่ง (Centrifugal Pump) ที่ติดตั้งแบบดูดน้ำขึ้นจากบ่อหรือถังที่อยู่ต่ำกว่าตัวปั๊ม ต้องเข้าใจก่อนว่าปั๊มหอยโข่งถูกออกแบบมาเพื่อ "ปั๊มของเหลว" ไม่ใช่ "ปั๊มอากาศ" ดังนั้นหากภายในเรือนปั๊มและท่อดูดมีแต่อากาศ ปั๊มจะไม่สามารถสร้างสภาวะสุญญากาศเพื่อดึงน้ำขึ้นมาได้เลย แม้จะเปิดเครื่องทิ้งไว้นานแค่ไหนก็ตาม
อย่าประมาทกับรอยรั่วเล็กๆ เพราะรอยรั่วเพียงเล็กน้อยขนาดเท่ารูเข็มในท่อทางดูดก็เพียงพอที่จะทำลายแรงดูดของปั๊มได้อย่างสิ้นเชิง เหตุผลก็คือ แทนที่ปั๊มจะดูดน้ำขึ้นมา มันกลับดูดอากาศจากภายนอกเข้าไปแทน จึงไม่มีแรงดูดเหลือให้กับน้ำเลย ปัญหานี้ยิ่งเห็นชัดในปั๊มที่ต้องดูดน้ำจากระดับต่ำ
หากท่อทางดูดมีการติดตั้งฟุตวาล์ว (Foot Valve) หรือหัวกรอง (Strainer) ที่ปลายท่อ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันทั่วไป อาจมีสิ่งแปลกปลอมต่างๆ เข้าไปอุดตัน เช่น เศษใบไม้ ตะไคร่น้ำ ถุงพลาสติก โคลน หรือแม้แต่สัตว์น้ำเล็กๆ การอุดตันนี้จะขัดขวางการไหลของน้ำ ทำให้ปั๊มดูดน้ำขึ้นมาไม่ได้
วิธีแก้ปัญหานี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา เริ่มจากหยุดการทำงานของปั๊มก่อน จากนั้นค้นหาจุกสำหรับล่อน้ำ (Priming Port) ซึ่งโดยปกติจะอยู่ด้านบนของเรือนปั๊ม ให้เปิดจุกออก แล้วค่อยๆ กรอกน้ำสะอาดลงไปทีละน้อยจนเต็มเรือนปั๊มและท่อดูดโดยสมบูรณ์ อย่าเทเร็วเกินไปเพราะจะทำให้อากาศติดค้างในระบบได้ เมื่อกรอกน้ำเต็มแล้ว ให้ปิดจุกให้แน่นเพื่อป้องกันอากาศรั่วเข้าไป จากนั้นจึงเริ่มเดินเครื่องปั๊มอีกครั้ง
ซ่อมแซมรอยรั่วซึมในท่อทางดูด
การแก้ปัญหานี้ต้องใช้ความพิถีพิถัน เริ่มจากตรวจสอบข้อต่อทั้งหมดตลอดเส้นท่อทางดูดอย่างละเอียด ลองขันข้อต่อทั้งหมดให้แน่นขึ้น หากเป็นท่อ PVC ที่มีรอยร้าว อาจต้องทำการตัดส่วนที่ชำรุดออกแล้วต่อใหม่ด้วยข้อต่อและกาว PVC คุณภาพดี สำหรับการซ่อมแบบฉุกเฉินชั่วคราว สามารถใช้เทปพันเกลียวชนิดเข้มข้น หรืออีพ็อกซี่สำหรับงานประปาอุดรอยรั่วไว้ก่อนได้ แต่ควรซ่อมถาวรโดยเร็วที่สุด
ให้ปิดปั๊มและระบบน้ำก่อน จากนั้นถอดฟุตวาล์วหรือหัวกรองที่ปลายท่อดูดขึ้นมา นำมาทำความสะอาดอย่างถี่ถ้วนเอาสิ่งอุดตันทั้งหมดออกให้หมด ใช้แปรงขัดหากมีตะไคร่น้ำเกาะ และควรตรวจสอบสภาพของลิ้นวาล์วภายในว่ายังเปิด-ปิดได้ปกติหรือไม่ หากลิ้นแข็งหรือชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่ทั้งชุด แล้วจึงติดตั้งกลับเข้าที่เดิม
นี่คือปัญหาที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากที่สุด เพราะจะรู้สึกได้ชัดเจนเวลาอาบน้ำหรือใช้น้ำ น้ำไหลเบาไม่แรงพอ ทำให้ใช้เวลานานขึ้นและอึดอัดใจ
ปัญหานี้มักเกิดจากการปิดฝาล่อน้ำหรือฝาปิดเช็กวาล์วไม่สนิทพอ รวมถึงการเชื่อมต่อของท่อน้ำที่มีการเดินท่อจากฟุตวาล์วมายังปั๊มน้ำที่ไม่สนิท เมื่อมีอากาศปนเข้ามาในระบบ จะทำให้การไหลของน้ำไม่ต่อเนื่อง สร้างแรงดันได้ไม่เต็มที่ จึงส่งผลให้น้ำที่ออกมามีแรงน้อยลง
นี่เป็นข้อผิดพลาดในการเลือกใช้อุปกรณ์ที่พบได้บ่อย เมื่อใช้ท่อที่มีขนาดเล็กกว่าที่ปั๊มออกแบบไว้ น้ำจะไหลผ่านได้ช้าลงเพราะถูกจำกัดด้วยขนาดท่อ ส่งผลให้ปั๊มได้รับปริมาณน้ำน้อยกว่าปกติ จึงส่งออกมาด้วยแรงดันที่ต่ำลง แม้ปั๊มจะทำงานหนักมากขึ้นก็ไม่สามารถชดเชยได้
เศษวัสดุมีได้หลายแหล่ง ทั้งเศษวัสดุที่ปะปนมากับน้ำธรรมชาติ เช่น ทราย โคลน สนิม และเศษวัสดุจากกระบวนการติดตั้งปั๊มหรือท่อใหม่ เช่น เศษท่อ PVC ที่เกิดจากการตัด เศษกาว PVC ที่หยดลงไปในท่อ หรือเทปพันเกลียวที่หลุดเข้าไป สิ่งเหล่านี้จะไปอุดทางเดินน้ำและลดแรงดันลง
ปัญหานี้เกิดจากการใช้งานปั๊มมาในระยะเวลานาน หรือสภาพน้ำที่มีกรวดทราย คราบหินปูน หรือความกระด้างสูง ซึ่งจะกัดกร่อนและทำให้ใบพัดและเสื้อปั๊มสึกหรอไปเรื่อยๆ ส่งผลให้ช่องว่างระหว่างใบพัดกับเสื้อปั๊มมากกว่าปกติ ทำให้ประสิทธิภาพในการสร้างแรงดันลดลง
เมื่อแมคซีลซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ป้องกันน้ำไม่ให้รั่วออกจากตัวปั๊มเกิดการชำรุด จะมีน้ำรั่วซึมบริเวณใต้ปั๊มน้ำอัตโนมัติหรือบริเวณแกนเพลา การรั่วนี้ไม่เพียงแค่ทำให้เสียน้ำ แต่ยังส่งผลให้ความแรงของน้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะแรงดันบางส่วนถูกปล่อยออกไปทางรอยรั่ว
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าฝาปิดทุกจุดและการต่อท่อต่างๆ มีการเชื่อมต่อแนบสนิทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลองขันหมุนให้แน่นขึ้นอีกรอบ หากพบว่ายางรองฝาชำรุดหรือแข็ง ควรเปลี่ยนใหม่ สำหรับข้อต่อท่อที่สงสัยว่ารั่ว ให้ทากาวใหม่หรือใช้เทฟล่อนเทปพันเกลียวเพิ่มเติมเพื่อป้องกันอากาศรั่ว
ดูจากคู่มือปั๊มน้ำว่าแนะนำให้ใช้ท่อขนาดเท่าไร หากปั๊มระบุว่าต้องการท่อขนาด 1 นิ้ว ควรเลือกใช้ท่อขนาด 1 นิ้ว หรือ 1 ½ นิ้ว อย่าใช้เล็กกว่า หากติดตั้งผิดไปแล้ว แนะนำให้เปลี่ยนท่อใหม่ทั้งระบบหรืออย่างน้อยก็เส้นหลักที่สำคัญ เพราะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มาก
หากพบว่ามีเศษวัสดุต่างๆ เข้าไปอุดตันในท่อหรือภายในตัวปั๊ม ให้รีบแกะปั๊มน้ำออกมาทำความสะอาดอย่างละเอียด ถอดเสื้อปั๊มและใบพัดออกมาล้างด้วยน้ำสะอาด ขัดเอาตะกอนและเศษวัสดุออกให้หมด ตรวจสอบภายในเรือนปั๊มและทางเดินน้ำทุกจุด แล้วประกอบกลับอย่างถูกวิธี
หากตรวจสอบแล้วพบว่าเสื้อปั๊มหรือใบพัดเกิดการสึกหรอมาก เห็นได้จากร่องรอยกัดกร่อน มีรอยบุบหรือโค้งงอ หรือวัดระยะห่างระหว่างใบพัดกับเสื้อปั๊มแล้วพบว่ามากเกินไป ควรรีบเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่เพื่อให้ปั๊มน้ำทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ใช้ชิ้นส่วนแท้หรือมาตรฐานเดียวกันกับของเดิม
หากสังเกตเห็นน้ำรั่วซึมบริเวณใต้ปั๊มหรือแกนเพลา แสดงว่าแมคซีลมีปัญหาแน่นอน ควรรีบทำการเปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าวใหม่โดยเร็ว เพราะนอกจากจะทำให้แรงดันตกแล้ว ยังอาจทำให้มอเตอร์เสียได้หากน้ำซึมเข้าไปในส่วนไฟฟ้า การเปลี่ยนแมคซีลควรให้ช่างผู้ชำนาญทำเพราะต้องมีความแม่นยำ
ตรวจสอบและทำความสะอาดปลายก๊อกน้ำทุกจุดให้เรียบร้อย หากพบว่ามีการอุดตันจากคราบหินปูน ตะกอน หรือเศษวัสดุจากการติดตั้ง ให้ถอดตัวกรองออกมาล้างทำความสะอาด แช่น้ำยาขจัดคราบหินปูนถ้าจำเป็น จากนั้นจึงเปิดก๊อกน้ำรันปั๊มใหม่เพื่อดูผล
นอกจากการแก้ปัญหาเมื่อเกิดขึ้นแล้ว การป้องกันก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในระยะยาว
การบำรุงรักษาเชิงป้องกันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรหมั่นเช็คและสังเกตท่อน้ำภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอว่ามีการรั่วไหลหรือไม่ ตรวจสอบเครื่องสุขภัณฑ์ทั้งหมดว่ามีน้ำหยดหรือเปิดทิ้งไว้หรือไม่ เพราะปัญหาเล็กๆ เหล่านี้จะส่งผลให้ปั๊มทำงานหนักเกินความจำเป็น และอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ตามมา แนะนำให้ทำการตรวจสอบอย่างน้อยเดือนละครั้ง
อย่าใช้งานปั๊มเป็นระยะเวลานานเกินไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่จำเป็น เพราะจะทำให้ความร้อนสะสมในมอเตอร์จนอาจทำให้คอยล์ไหม้หรือชิ้นส่วนภายในเสียหายได้ ควรมีช่วงพักให้กับปั๊มบ้าง หากต้องใช้น้ำมากๆ หรือต่อเนื่อง ควรพิจารณาใช้ปั๊มขนาดใหญ่ขึ้นหรือเพิ่มถังกักเก็บเพื่อลดภาระของปั๊ม
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการติดตั้งปั๊มและถังเก็บน้ำเป็นไปตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด อ่านคู่มือให้ละเอียดและทำตามทุกขั้นตอน หรือจ้างช่างผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองมาติดตั้งให้ การติดตั้งที่ถูกต้องจะช่วยลดปัญหาในอนาคตได้มาก สัญญาณเตือนที่บอกว่ามีปัญหาคือ มอเตอร์ปั๊มมีเสียงดังผิดจากปกติ มีเสียงดังผิดจังหวะ หรือไม่เป็นเจอ ถ้าเจอแบบนี้ควรตรวจสอบทันที
ติดตั้งระบบป้องกันไฟฟ้า
ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (Surge Protector) และไฟดับกระทันหัน (UPS หรือ Voltage Stabilizer) เพื่อป้องกันแผงวงจรไฟฟ้าภายในปั๊มจากความเสียหาย เพราะระบบไฟฟ้าในบ้านมักมีความผันผวนของแรงดันไฟ การติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยยืดอายุปั๊มได้อย่างมาก
หากแหล่งน้ำของคุณมีตะกอนหรือสิ่งสกปรกปะปนมาก ควรพิจารณาติดตั้งตัวกรองหยาบก่อนเข้าปั๊ม เพื่อดักเศษวัสดุต่างๆ ไม่ให้เข้าไปทำลายใบพัดหรืออุดตันในระบบ ตัวกรองช่วยยืดอายุการใช้งานของปั๊มได้อย่างมีนัยสำคัญ
ด้วยความเข้าใจในสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาทั้ง 3 ประเภทหลักที่กล่าวมาข้างต้น คุณจะสามารถวินิจฉัยและจัดการกับปัญหาน้ำไม่ไหลและแรงดันน้ำตกได้ด้วยตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องรอช่างหรือเสียค่าใช้จ่ายสูงในการซ่อมแซมทุกครั้ง
จำไว้ว่า การบำรุงรักษาเชิงป้องกันและการตรวจสอบเป็นประจำเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ในอนาคต การลงทุนเวลาเพียงเล็กน้อยในการดูแลระบบน้ำของบ้านจะช่วยให้คุณมีน้ำใช้อย่างเพียงพอและมีแรงดันที่เหมาะสมตลอดเวลา
หากพบว่าปัญหาซับซ้อนเกินกว่าที่จะแก้ไขเอง หรือหลังจากลองทุกวิธีแล้วยังไม่ได้ผล ควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือบริษัทผู้ผลิตปั๊มโดยตรง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและแก้ไขอย่างถูกต้อง อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป เพราะจะทำให้ปัญหาขยายใหญ่ขึ้นและมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสูงขึ้นตามไปด้วย
สอบถาม/สั่งซื้อสินค้าและอุปกรณ์ระบบน้ำได้ที่: ดำรงค์โฮมพลัส | โกสุมพิสัย มหาสารคาม
เว็บไซต์: www.drhome.plus
เฟสบุ๊ค : facebook.com/damronghomeplus
LINE: https://lin.ee/owsFVCn
โทร: 043-761-599 หรือ 043-761-855
เปิดทุกวัน 08.00 – 17.00 น.