โฮมพลัส จัดเต็มทุกเรื่องบ้าน
043-761599

แด๊ป ซิลิโคน และยาแนว ต่างกันอย่างไร?

แด๊ป ซิลิโคน และยาแนว ต่างกันอย่างไร?
หมวดหมู่: บทความ |

การเลือกใช้วัสดุอุดรอยต่อและยาแนวที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็นการลงทุนที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของอาคารในระยะยาว หลายท่านอาจสงสัยว่า "แด๊ป ซิลิโคน และยาแนว" ต่างกันอย่างไร? วันนี้เราจะพาคุณทำความเข้าใจอย่างละเอียดถึงความแตกต่างของวัสดุทั้งสามชนิดนี้ พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้ให้เหมาะกับงานแต่ละประเภท


ทำไมต้องเข้าใจความแตกต่างของวัสดุอุดรอยต่อ?


ในวงการก่อสร้างและการบำรุงรักษาอาคาร ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัสดุเคมีภัณฑ์สำหรับการอุดรอยต่อเป็นสาเหตุหลักของความล้มเหลวในงานสถาปัตยกรรม ส่งผลให้เกิดปัญหาการรั่วซึม ความเสียหายของโครงสร้าง และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงลิ่ว


อาคารทุกหลังประกอบด้วยวัสดุหลากหลายชนิด เช่น คอนกรีต กระจก อลูมิเนียม ไม้ และกระเบื้องเซรามิก จุดที่วัสดุเหล่านี้มาบรรจบกันเรียกว่า "รอยต่อ" ซึ่งเป็นจุดที่เปราะบางที่สุดของอาคาร รอยต่อเหล่านี้ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวและหดตัวจากอุณหภูมิ การเคลื่อนตัวของโครงสร้าง และแรงสั่นสะเทือน การเลือกใช้วัสดุอุดรอยต่อที่ไม่เหมาะสมจะนำไปสู่การแทรกซึมของน้ำและความชื้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายร่นแรง


ความสับสนที่พบบ่อยในท้องตลาด


หนึ่งในประเด็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดในประเทศไทยคือความสับสนในการเรียกชื่อวัสดุ โดยเฉพาะคำว่า "ซิลิโคน" ที่มักถูกใช้เรียกเหมารวมวัสดุอุดรอยต่อทุกประเภทที่มีลักษณะเป็นเนื้อครีมในหลอด หรือคำว่า "ยาแนว" ที่อาจหมายถึงทั้งปูนยาแนวกระเบื้องและซิลิโคนยาแนวรอยต่อ


เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เราสามารถแบ่งวัสดุออกเป็นสองกลุ่มใหญ่:


Sealant (ซีลแลนท์): วัสดุที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่น ทำหน้าที่กันน้ำและรองรับการเคลื่อนตัว เช่น ซิลิโคนและอะคริลิก


Grout (ยาแนว): วัสดุที่มีคุณสมบัติแข็ง ทำหน้าที่เติมเต็มช่องว่างเพื่อความมั่นคงและสุขอนามัย เช่น ปูนยาแนวกระเบื้อง


แด๊ป (DAP) หรือกาวอะคริลิก: มิตรแท้ของงานตกแต่งภายใน


ที่มาของคำว่า "แด๊ป"


คำว่า "แด๊ป" ที่ช่างไทยนิยมใช้เรียกกาวอะคริลิกนั้น มีที่มาจากชื่อแบรนด์ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาคือ DAP Products Inc. ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกตลาดกาวอะคริลิกในยุคแรกๆ ปรากฏการณ์นี้คล้ายคลึงกับการที่เราเรียกผงซักฟอกว่า "แฟ้บ" หรือเครื่องถ่ายเอกสารว่า "ซีร็อกซ์" นั่นคือ ชื่อแบรนด์ได้กลายเป็นคำนามทั่วไปที่ใช้เรียกผลิตภัณฑ์กาวอะคริลิกยี่ห้อใดก็ได้


ในปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายรายที่ผลิตกาวอะคริลิกออกมาจำหน่าย เช่น Red Fox, Bosny, Sony หรือ TOA แต่ช่างและผู้ใช้งานทั่วไปก็ยังคงติดปากเรียกว่า "แด๊ป" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมและการยอมรับของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้


องค์ประกอบและการทำงานของกาวอะคริลิก


กาวอะคริลิกเป็นวัสดุประเภท Water-based Emulsion หรืออิมัลชันสูตรน้ำ ซึ่งมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญ ได้แก่ Acrylic Polymer ที่ให้ความยืดหยุ่นและการยึดเกาะ, Fillers เช่น แคลเซียมคาร์บอเนตเพื่อเพิ่มเนื้อและความแข็งแรง และน้ำที่ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายช่วยให้กาวมีสถานะเป็นของเหลวหนืดขณะใช้งาน


สิ่งที่น่าสนใจคือกลไกการเซ็ตตัวของกาวอะคริลิก ซึ่งแข็งตัวผ่านกระบวนการ "ระเหยของน้ำ" เมื่อบีบกาวออกมาสัมผัสอากาศ น้ำในเนื้อกาวจะระเหยออกไป ทำให้อนุภาคโพลีเมอร์เคลื่อนที่เข้ามาใกล้กันและสร้างพันธะยึดเกาะกันแน่นขึ้น กระบวนการนี้มีนัยสำคัญทางวิศวกรรมคือ เมื่อน้ำระเหยออกไป เนื้อกาวจะมีปริมาตรลดลง ส่งผลให้เกิดการหดตัวหรือการยุบตัวของเนื้อกาวเมื่อแห้งสนิท


จุดเด่นและข้อจำกัดของกาวอะคริลิก


จุดเด่นหลักของแด๊ป:

  1. ทาสีทับได้: นี่คือจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของกาวอะคริลิก เนื่องจากพื้นผิวเมื่อแห้งจะมีลักษณะด้านและมีความพรุนเล็กน้อย ทำให้สีน้ำพลาสติกและสีน้ำมันสามารถยึดเกาะได้ดี กลมกลืนไปกับผนังอย่างสมบูรณ์แบบ
  2. ใช้งานง่าย: สามารถใช้นิ้วจุ่มน้ำหรือฟองน้ำชุบน้ำปาดแต่งผิวให้เรียบเนียนได้ง่ายก่อนที่กาวจะแห้ง และล้างทำความสะอาดเครื่องมือด้วยน้ำเปล่าได้
  3. ราคาประหยัด: ต้นทุนต่อหน่วยต่ำกว่าวัสดุอื่นๆ ประมาณ 30-50 บาทต่อหลอด


ข้อจำกัดที่ต้องระวัง:

  1. ความยืดหยุ่นต่ำ: มีค่าความยืดหยุ่นเพียง 5-12% เท่านั้น หากนำไปใช้ในจุดที่มีการขยับตัวสูง เนื้อกาวจะฉีกขาดหรือหลุดล่อนได้ง่าย
  2. ทนน้ำได้น้อย: เนื่องจากเป็นสูตรน้ำ แม้จะแห้งแล้วก็ยังสามารถดูดซึมความชื้นได้ หากแช่น้ำหรืออยู่ในที่เปียกชื้นตลอดเวลา กาวจะเกิดการบวมพอง เปื่อยยุ่ย และสูญเสียแรงยึดเกาะ
  3. ไม่ทนแดด: ไม่ทนต่อรังสี UV จากแสงแดด หากใช้ภายนอกอาคาร เนื้อกาวจะเหลือง กรอบ และแตกร้าวภายในระยะเวลาสั้นๆ


การใช้งานที่เหมาะสมกับแด๊ป


จากคุณสมบัติข้างต้น แด๊ปหรือกาวอะคริลิกถูกออกแบบมาเพื่องานสถาปัตยกรรมภายในเป็นหลัก โดยเฉพาะงานที่เน้นความสวยงามและการเก็บรายละเอียด:


  • งานเก็บรอยต่องานตกแต่ง: รอยต่อระหว่างบัวพื้นกับผนัง รอยต่อวงกบประตูหน้าต่างไม้กับผนังปูนภายใน งานเฟอร์นิเจอร์ Built-in
  • งานอุดรอยแตกร้าว: ใช้โป๊วอุดรอยร้าวขนาดเล็กบนผนังปูนก่อนการทาสีใหม่ เนื่องจากขัดแต่งง่ายและสีทาทับได้เนียน
  • งานติดตั้งฝ้าเพดาน: เก็บเกลี่ยรอยต่อขอบฝ้าฉาบเรียบ


ข้อห้ามสำคัญ: ห้ามใช้กาวอะคริลิกในห้องน้ำ บริเวณอ่างล้างหน้า หรือภายนอกอาคารที่โดนฝนสาดโดยตรง เพราะอายุการใช้งานจะสั้นมากและเกิดราดำได้ง่ายจากความชื้นสะสม


ซิลิโคน (Silicone Sealant): เกราะป้องกันสภาวะอากาศ


โครงสร้างพิเศษที่แตกต่างจากวัสดุทั่วไป


ซิลิโคนเป็นวัสดุยาแนวประสิทธิภาพสูงที่สังเคราะห์ขึ้นจากโพลีไซลอกเซน (Polysiloxane) ซึ่งมีแกนหลักเป็นพันธะระหว่างซิลิกอนและออกซิเจน (Si-O) แตกต่างจากวัสดุโพลีเมอร์อินทรีย์ทั่วไปที่มีแกนหลักเป็นคาร์บอน (C-C) พันธะ Si-O นี้มีความแข็งแรงพันธะสูงกว่า ทำให้ซิลิโคนมีความเสถียรทางความร้อนและเคมีสูงมาก นี่คือเหตุผลที่ทำให้ซิลิโคนสามารถทนทานต่อสภาพอากาศรุนแรงได้อย่างยอดเยี่ยม


การแบ่งประเภทซิลิโคนตามระบบการแข็งตัว


ซิลิโคนแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามสารระเหยที่ปล่อยออกมาในขณะแข็งตัว ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเลือกใช้งาน การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณเลือกใช้ซิลิโคนได้อย่างถูกต้องและประหยัดในระยะยาว


ซิลิโคนชนิดมีกรด (Acetic Cure)


ลักษณะเด่น: มีกลิ่นฉุนเปรี้ยวคล้ายน้ำส้มสายชู (Vinegar-like odor) ขณะใช้งาน เกิดจากการปล่อยกรดอะซีติก

จุดแข็ง:

  • แห้งตัวเร็ว
  • มีแรงยึดเกาะสูงมาก
  • เนื้อกาวมีความแข็งแรง


ข้อระวัง: ฤทธิ์ที่เป็นกรดสามารถกัดกร่อนวัสดุบางชนิดได้ โดยเฉพาะโลหะ (เหล็ก ทองแดง สังกะสี) ปูนซีเมนต์ (ทำปฏิกิริยากับด่างในปูนจนเป็นฝุ่นแป้ง) และหินธรรมชาติ (หินอ่อน แกรนิต) นอกจากนี้ยังอาจทำลายสารเคลือบปรอทหลังกระจกเงา


การใช้งานที่เหมาะสม: เหมาะที่สุดสำหรับงานกระจกชนกระจก ตู้ปลา งานเซรามิกผิวเรียบ อลูมิเนียมชุบ และพื้นผิวที่ไม่ทำปฏิกิริยากับกรด


ซิลิโคนชนิดเป็นกลาง (Neutral Cure)


ลักษณะเด่น: มีกลิ่นอ่อนมากหรือแทบไม่มีกลิ่น สารที่ระเหยออกมามักเป็นแอลกอฮอล์ (Alkoxy) หรืออ็อกไซม์ (Oxime)

จุดแข็ง:

  • ไม่กัดกร่อนวัสดุ
  • มีความยืดหยุ่นสูงกว่าชนิดกรด
  • ทนทานต่อรังสี UV ได้ดีเยี่ยม


ข้อจำกัด: ระยะเวลาแห้งตัวช้ากว่า ราคาสูงกว่าชนิดกรด แรงยึดเกาะเริ่มต้นอาจน้อยกว่าเล็กน้อยแต่ความยืดหยุ่นระยะยาวดีกว่า

การใช้งานที่เหมาะสม: เป็นซิลิโคนอเนกประสงค์ ใช้ได้กับวัสดุที่มีรูพรุน เช่น ปูนคอนกรีต อิฐ ไม้ หินอ่อน โลหะทุกชนิด กระจกเงา และงานติดตั้งวงกบประตูหน้าต่างภายนอก


คุณสมบัติโดดเด่นของซิลิโคน


1. ความยืดหยุ่นสูงมาก ซิลิโคนมีความสามารถในการยืดและหดตัวได้มากกว่า 25-50% (หรือสูงกว่าในเกรดโครงสร้าง) ทำให้สามารถรองรับการเคลื่อนตัวของอาคาร แรงสั่นสะเทือน และการขยายตัวจากความร้อนได้โดยไม่ฉีกขาด

2. ทนทานต่อ UV และสภาพอากาศ เนื่องจากพันธะ Si-O ไม่ถูกทำลายด้วยรังสี UV หรือโอโซน ซิลิโคนจึงไม่กรอบแตก ไม่เปราะ และไม่เปลี่ยนสภาพแม้ตากแดดตากฝนเป็นเวลานานนับ 10 ปี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานภายนอก

3. กันน้ำได้สมบูรณ์แบบ ซิลิโคนมีคุณสมบัติไม่ชอบน้ำ (Hydrophobic) น้ำไม่สามารถซึมผ่านเนื้อซิลิโคนได้ จึงเป็นวัสดุกันซึมที่ดีที่สุดในกลุ่มนี้

4. ข้อจำกัดเรื่องการทาสี ผิวหน้าของซิลิโคนมีความมันวาวและแรงตึงผิวต่ำมาก สีจะไม่สามารถยึดเกาะได้ หากทาสีทับ สีจะหดตัวเป็นเม็ดหรือหลุดล่อนออกมาเป็นแผ่น ผู้ผลิตจึงมักผลิตซิลิโคนออกมาหลายสี (ขาว ดำ เทา ใส น้ำตาล) เพื่อให้เลือกใช้ให้เข้ากับวัสดุ


ซิลิโคนเกรดพิเศษสำหรับงานเฉพาะทาง


Sanitary Silicone (ซิลิโคนกันเชื้อรา): มีการเติมสารฆ่าเชื้อราลงในเนื้อซิลิโคน เหมาะสำหรับใช้ในห้องน้ำและห้องครัว เพื่อป้องกันการเกิดราดำในระยะเวลาหนึ่ง (ควรทราบว่าสารนี้มีอายุการใช้งานและจะเสื่อมไปตามกาลเวลา)

Structural Glazing Silicone: ซิลิโคนเกรดโครงสร้างที่มีความแข็งแรงสูงสำหรับยึดกระจกอาคารสูง (Curtain Wall) โดยไม่ต้องใช้กรอบโลหะ


กาวยาแนว (Tile Grout): ตัวเติมเต็มความแข็งแกร่ง


ความแตกต่างระหว่างกาวซีเมนต์และกาวยาแนว


ผู้ใช้งานมักสับสนระหว่างวัสดุสองชนิดนี้ แต่จริงๆ แล้วมีหน้าที่ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:


กาวซีเมนต์ (Tile Adhesive / ปูนกาว): ใช้สำหรับยึดติดแผ่นกระเบื้องเข้ากับพื้นหรือผนัง อยู่ด้านหลังกระเบื้อง รับน้ำหนักและแรงยึดเกาะ

กาวยาแนว (Tile Grout): ใช้สำหรับเติมเต็มช่องว่างระหว่างแผ่นกระเบื้องเพื่อป้องกันน้ำซึมลงใต้แผ่น ลดการสะสมของฝุ่น และเพื่อความสวยงาม


ประเภทของกาวยาแนว


ยาแนวชนิดซีเมนต์ (Cementitious Grout)


เป็นประเภทมาตรฐานที่ใช้กันแพร่หลายที่สุด ส่วนประกอบหลักคือปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ผงละเอียด สารอุ้มน้ำ และเม็ดสี แบ่งย่อยได้เป็น:


แบบเนื้อละเอียด (Unsanded Grout): ไม่มีทรายผสม เหมาะสำหรับร่องยาแนวขนาดเล็ก (0.2 - 3 มม.) มักใช้กับกระเบื้องบุผนัง หากใช้กับร่องใหญ่จะเกิดการแตกร้าวจากการหดตัว

แบบผสมทราย (Sanded Grout): มีทรายละเอียดผสมอยู่เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและลดการหดตัว เหมาะสำหรับร่องขนาดใหญ่ (กว้างกว่า 3 มม.) เช่น พื้นกระเบื้องภายนอก หรือกระเบื้องดินเผา

แบบป้องกันเชื้อรา (Modified Cement Grout): มีการเติมสารโพลีเมอร์พิเศษและสารยับยั้งเชื้อรา (เช่น Microban) เพื่อลดรูพรุน ป้องกันการดูดซึมน้ำ และยับยั้งราดำ เหมาะสำหรับห้องน้ำและพื้นที่เปียกชื้น

ยาแนวชนิดอีพ็อกซี่ (Epoxy Grout)


ถือเป็นนวัตกรรมขั้นสูงในวงการยาแนว ประกอบด้วย 2 ส่วนผสมคือ เรซิ่น (Resin) และสารเร่งแข็ง (Hardener)


คุณสมบัติเด่น:

  • กันน้ำได้ 100%
  • ทนทานต่อกรด-ด่างและสารเคมีกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม
  • ผิวหน้าแข็งแกร่งและเรียบเนียนเหมือนพลาสติก
  • สิ่งสกปรกไม่ฝังลึกและทำความสะอาดง่าย
  • ป้องกันเชื้อราดำได้อย่างถาวร


ข้อจำกัด: ราคาสูงกว่ายาแนวซีเมนต์มาก (อาจสูงกว่า 10-20 เท่า) การติดตั้งยากกว่า ต้องมีความชำนาญเพราะแห้งตัวเร็วและเช็ดทำความสะอาดคราบส่วนเกินยาก


สมบัติเชิงกลที่ต่างจากซิลิโคน


ต่างจากซิลิโคนและแด๊ป กาวยาแนวมีคุณสมบัติแข็งเกร็ง (Rigid) ไม่มีความยืดหยุ่น หน้าที่หลักคือการรับแรงกดอัดและเชื่อมประสานกระเบื้องให้เป็นผืนเดียวกัน ดังนั้น ยาแนวจึงไม่สามารถใช้แทนซิลิโคนในบริเวณที่ต้องการความยืดหยุ่นได้ หากโครงสร้างมีการขยับตัว ยาแนวจะแตกร้าวและหลุดร่อน


เปรียบเทียบคุณสมบัติวัสดุทั้งสามชนิด


เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น มาดูตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติหลักของวัสดุทั้งสามชนิดกัน:



การวิเคราะห์ความคุ้มค่าในระยะยาว


แม้กาวอะคริลิกจะมีราคาต่อหน่วยต่ำที่สุด แต่หากนำไปใช้ผิดประเภท เช่น ใช้ภายนอกอาคาร จะต้องมีการซ่อมแซมทุก 1-2 ปี ซึ่งค่าแรงช่างในการรื้อถอนและติดตั้งใหม่จะสูงกว่าค่าวัสดุมาก ดังนั้น ซิลิโคนหรือ PU Sealant (ซึ่งเป็นอีกทางเลือกสำหรับงานภายนอกที่ทาสีทับได้) จึงมีความคุ้มค่ามากกว่าในระยะยาวสำหรับงานภายนอก


คู่มือการเลือกใช้ตามสถานการณ์จริง


กรณีศึกษาที่ 1: รอยต่อระหว่างวงกบหน้าต่างกับผนังปูน


สถานการณ์ A: ภายในบ้าน ต้องการทาสีผนังเก็บงานให้สวยงาม

  • วัสดุที่เลือก: แด๊ป (Acrylic Sealant)
  • เหตุผล: ต้องการคุณสมบัติการทาสีทับเพื่อให้รอยต่อกลมกลืนไปกับผนังห้อง และภายในบ้านไม่มีแดดฝนรุนแรง

สถานการณ์ B: ภายนอกบ้าน โดนแดดและฝนโดยตรง

  • วัสดุที่เลือก: ซิลิโคนชนิดเป็นกลาง (Neutral Silicone) หรือ PU Sealant
  • เหตุผล: ต้องการความทนทานต่อ UV และการกันน้ำที่สมบูรณ์ ซิลิโคนกรดอาจกัดกร่อนปูนรอบวงกบได้ จึงต้องใช้ชนิดเป็นกลาง


กรณีศึกษาที่ 2: งานห้องน้ำและสุขภัณฑ์


จุดที่ 1: รอยต่อขอบอ่างล้างหน้า / อ่างอาบน้ำ / ตู้อาบน้ำ

  • วัสดุที่เลือก: ซิลิโคนกันเชื้อรา (Sanitary Neutral Silicone)
  • ข้อห้ามเด็ดขาด: ห้ามใช้แด๊ป เพราะจะขึ้นราดำและเปื่อยยุ่ยภายในเวลาสั้นๆ และห้ามใช้ยาแนวปูนเพราะการขยับตัวของอ่างจะทำให้ปูนแตก

จุดที่ 2: ร่องกระเบื้องพื้นและผนังห้องน้ำ

  • วัสดุที่เลือก: ยาแนวกันเชื้อรา (Anti-mold Cement Grout) หรือ ยาแนวอีพ็อกซี่ (Epoxy Grout)
  • เหตุผล: หากมีงบประมาณเพียงพอ แนะนำให้ใช้ยาแนวอีพ็อกซี่เพื่อแก้ปัญหาราดำถาวรและการกัดกร่อนจากน้ำยาล้างห้องน้ำ

กรณีศึกษาที่ 3: งานกระจกและตู้ปลา

วัสดุที่เลือก: ซิลิโคนชนิดมีกรด (Acetic Silicone) 100% ไม่มีสารกันเชื้อรา

เหตุผล: ซิลิโคนกรดมีแรงยึดเกาะกระจกดีที่สุด แห้งไว และไม่มีสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ (ต้องระวังซิลิโคนกันเชื้อราอาจเป็นพิษต่อปลา)


การแก้ไขปัญหาที่พบบ่อย


ปัญหาราดำ (Black Mold)


ราดำเป็นปัญหาคลาสสิกของวัสดุอุดรอยต่อในพื้นที่ชื้น สปอร์เชื้อราเจริญเติบโตบนคราบสบู่และไขมันที่เกาะอยู่บนผิววัสดุ หากเป็นวัสดุที่มีรูพรุน (เช่น ยาแนวซีเมนต์ หรือซิลิโคนคุณภาพต่ำที่เสื่อมสภาพ) ราจะฝังรากลึกลงไปในเนื้อวัสดุ


วิธีแก้ไขเบื้องต้น:

  1. ใช้น้ำส้มสายชูทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง
  2. ใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำขัดถู


วิธีแก้ไขขั้นรุนแรง: หากราฝังลึกในเนื้อซิลิโคน การขัดจะไม่ช่วยอะไร ต้องทำการ "ลอกและยิงใหม่" (Re-caulking) โดยใช้มีดคัตเตอร์กรีดซิลิโคนเก่าออกให้หมด ทำความสะอาดพื้นผิวด้วยแอลกอฮอล์หรือทินเนอร์เพื่อขจัดคราบไขมัน รอให้แห้งสนิท แล้วยิงซิลิโคนกันเชื้อราใหม่


ปัญหายาแนวหลุดล่อนและเป็นรู


สาเหตุ: เกิดจากการผสมปูนยาแนวเหลวเกินไป (ทำให้น้ำระเหยออกแล้วเกิดรูพรุน) การใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีฤทธิ์กรดรุนแรงกัดกร่อนเนื้อปูน หรืออายุการใช้งานที่ยาวนานจนเสื่อมสภาพ

วิธีแก้ไข: ขูดร่องยาแนวเดิมออกด้วยเหล็กขูดร่องยาแนว (Grout Remover) ล้างทำความสะอาด แล้วผสมยาแนวใหม่ให้มีความข้นเหนียวพอดี อัดลงร่องให้แน่น

ปัญหาซิลิโคนไม่แห้งหรือเยิ้ม

สาเหตุ: ซิลิโคนหมดอายุ (Expired Shelf Life) หรือการจัดเก็บในที่ร้อนจัด ทำให้สารระเหย (Curing Agent) เสื่อมสภาพ

การป้องกัน: ตรวจสอบวันหมดอายุที่หลอดก่อนซื้อเสมอ และควรใช้ให้หมดหลังจากเปิดใช้งาน หากเหลือควรปิดจุกให้แน่นที่สุดเพื่อป้องกันอากาศเข้า


สรุป: การเลือกใช้วัสดุที่ถูกต้องคือการลงทุนที่คุ้มค่า


การตอบคำถามว่า "แด๊ป ซิลิโคน ยาแนว ต่างกันอย่างไร" ไม่ได้เป็นเพียงการจำแนกชื่อเรียก แต่เป็นการทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติทางวัสดุศาสตร์ที่กำหนดขอบเขตความสามารถของวัสดุแต่ละชนิด


แด๊ป (Acrylic) คือเพื่อนคู่ใจงานสี เหมาะสำหรับงานภายในที่ต้องการความเนียนเรียบและทาสีทับได้ แต่แพ้น้ำและแดด


ซิลิโคน (Silicone) คือเกราะป้องกันสภาวะอากาศ เหมาะสำหรับงานกันน้ำ งานภายนอก งานกระจก และงานที่มีการเคลื่อนตัวสูง โดยต้องเลือกชนิดกรดหรือกลางให้ถูกกับวัสดุพื้นผิว


ยาแนว (Grout) คือตัวเติมเต็มความแข็งแกร่ง สำหรับงานกระเบื้องโดยเฉพาะ ไม่มีความยืดหยุ่น และห้ามนำไปใช้แทนซิลิโคนในจุดเสี่ยง


การเลือกใช้วัสดุที่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมที่นำเสนอในบทความนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้งานก่อสร้างมีความสวยงามสมบูรณ์แบบ แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในระยะยาว ลดภาระการซ่อมแซม และยืดอายุการใช้งานของอาคารได้อย่างยั่งยืน


สอบถาม/สั่งซื้อสินค้า ได้ที่: ดำรงค์โฮมพลัส | โกสุมพิสัย มหาสารคาม


ที่ดำรงค์โฮมพลัส เรามีวัสดุอุดรอยต่อและยาแนวคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำหลากหลายชนิด พร้อมให้คำปรึกษาการเลือกใช้ที่เหมาะสมกับงานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน งานอาคาร หรืองานอุตสาหกรรม

ติดต่อเรา:

  • 🌐 เว็บไซต์: www.drhome.plus
  • 📘 เฟสบุ๊ค: facebook.com/damronghomeplus
  • 💬 LINE: https://lin.ee/owsFVCn
  • 📞 โทร: 043-761-599 หรือ 043-761-855
  • 🕐 เปิดทุกวัน: 08.00 – 17.00 น.


มาพบกับทีมงานมืออาชีพของเรา พร้อมให้คำแนะนำและช่วยคุณเลือกวัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโปรเจคของคุณ เพราะเราเข้าใจว่า "วัสดุที่เลือกถูกต้อง คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด"


Recommended Items

JORAKAY จระเข้ ซิลิโคน ซีล เอ็น พลัส 280มล. ใส (20/ลัง)

JORAKAY จระเข้ ซิลิโคน ซีล เอ็น พลัส 280มล. ใส (20/ลัง)

175.00 บาท

หน่วย: หลอด

ดูรายละเอียด
JORAKAY ซิลิโคน เอ็มพี เกเตอร์ 280มล. สีขาว (24/ลัง)

JORAKAY ซิลิโคน เอ็มพี เกเตอร์ 280มล. สีขาว (24/ลัง)

99.00 บาท

หน่วย: หลอด

ดูรายละเอียด
JORAKAY ยาแนวจระเข้ เทอร์โบ พลัส 0.5กก.ขาวไข่มุก (20/ลัง)

JORAKAY ยาแนวจระเข้ เทอร์โบ พลัส 0.5กก.ขาวไข่มุก (20/ลัง)

105.00 บาท

89.00 บาท (ถึง 31/12/2025)

หน่วย: ถุง

ดูรายละเอียด
TOA ซิลิโคน ชีลแลนท์ (ชนิดไม่กรด) สีดำ 12/ลัง

TOA ซิลิโคน ชีลแลนท์ (ชนิดไม่กรด) สีดำ 12/ลัง

135.00 บาท

หน่วย: หลอด

ดูรายละเอียด
TOA ซิลิโคน ชีลแลนท์ (ชนิดไม่กรด) สีเทา 12/ลัง

TOA ซิลิโคน ชีลแลนท์ (ชนิดไม่กรด) สีเทา 12/ลัง

135.00 บาท

หน่วย: หลอด

ดูรายละเอียด
กาวยาแนว PU โมดีฟาย SX-400 สีขาว SEALEX

กาวยาแนว PU โมดีฟาย SX-400 สีขาว SEALEX

175.00 บาท

หน่วย: หลอด

ดูรายละเอียด
ยาแนวพร้อมใช้ ชนิดยืดหยุ่น สีดำ /400กรัม วีพรูฟ 620

ยาแนวพร้อมใช้ ชนิดยืดหยุ่น สีดำ /400กรัม วีพรูฟ 620

220.00 บาท

หน่วย: กระป๋อง

ดูรายละเอียด
LINE Icon LINE Facebook 043-761599